ข้อตกลงมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS นครศรีธรรมราช : ข้าวอินทรีย์พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง
สมาคมอาหารธรรมชาติยั่งยืน นครศรีธรรมราช ร่วมกับเครือข่ายศูนย์ข้าวชุมชนในเขตลุ่มน้ำปากพนัง ได้แก่ ศูนย์ข้าวชุมชนตำบลท่าประจะ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
จัดกิจกรรมและเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อจัดมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS นครศรีธรรมราช ในวันที่ 10 กันยายน 2568
ได้ทำข้อตกลงข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งมีการปลูกข้าวกระจายอยู่ในเขตลุ่มน้ำปากพนัง โดยมีการปลูกพันธุ์ข้าวพื้นเมืองได้แก่ ข้าวเล็บนก และข้าวสายพันธุ์ที่เหมาะกับพื้นที่เช่น ข้าวสังห์หยด ข้าวหอมปทุม ข้าวกข.43 ข้าวกข.79 เป็นต้น
ข้อตกลงมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS นครศรีธรรมราช : ข้าวอินทรีย์ มีรายละเอียดดังนี้
เกณฑ์มาตรฐาน PGS นครศรีธรรมราช 2568 :ข้าวอินทรีย์ (กันยายน 2568)
1.ระยะเวลาปรับเปลี่ยนจากเคมีสู่อินทรีย์ใช้เวลา 1 ปี
2.ต้องมีการบันทึกข้อมูลและกิจกรรมในแปลง
3.เมล็ดพันธุ์ ต้องรู้แหล่งที่มา ต้องไม่เป็นพืช GMO , ต้องไม่เป็นพืชฉายแสง และไม่ปนเปื้อนสารเคมี
4.ผลิตเมล็ดพันธุ์หรือส่วนขยายพันธุ์ เป็นการอนุรักษ์พรรณพืชท้องถิ่น
5.มีการจัดเก็บอุปกรณ์ ปัจจัยการผลิตให้เป็นสัดส่วนไม่นำมาปนกับสารเคมี บรรจุภัณฑ์ต้องไม่เคยบรรจุสารเคมีมาก่อน
6.ปลูกพืชใช้ดินเป็นหลัก ช่วยอนุรักษ์ดินและปรับปรุงโครงสร้างดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ และหลากหลายทางชีวภาพของดิน โดยการใส่ปุ๋ยคอก, ปุ๋ยหมักที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และ/ หรือ ใช้การตรึงไนโตรเจนจากพืช ห้ามใช้มูลสัตว์ที่ได้จากระบบการผลิตที่ไม่เป็นธรรม และไม่ใช้สิ่งขับถ่ายของมนุษย์บนพืชที่เป็นอาหารมนุษย์
7.ห้ามเตรียมดินโดยการเผาเพื่อการรักษาอินทรียวัตถุ และความหลากหลายทางชีวภาพของหน้าดิน
8.มีมาตรการป้องกันการเสื่อมโทรมของสภาพดิน ได้แก่ การป้องการการชะล้างหน้าดิน การป้องกันดินเค็มโดยวิธีการทางนิเวศ
9.มีการจัดการน้ำและใช้น้ำอย่างยั่งยืน โดยน้ำที่นำมาใช้ต้องมั่นใจว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้
10.มีแนวกันชนป้องกันสารเคมีจากแปลงข้างเคียงโดยประเมินจากความเสี่ยง
11.การปลูกพืชคู่ขนานต้องมีมาตรการแยกแยะผลผลิตให้ชัดเจน และต้องปรับเปลี่ยนเป็นอินทรีย์ทั้งหมดภายใน 3 ปี
12.การจัดการแมลงศัตรูพืช/ โรคพืช และวัชพืช รวมไปถึงการจัดการเจริญเติบโต โดยห้ามใช้ฮอร์โมน สารเคมีสังเคราะห์หรือสารเคมีทางการเกษตรในแปลงเด็ดขาด และไม่ใช้ปัจจัยการผลิตที่สมาคมฯไม่อนุญาต
13.รักษาความเป็นอินทรีย์ตลอดห่วงโซ่การผลิตในขั้นตอนการผลิต การแปรรูป การบรรจุ การเก็บรักษา และการขนส่ง ไม่ให้มีการปนเปื้อนสารเคมี
14.ผู้รับการตรวจต้องยินยอมให้ตรวจ และเปิดเผยข้อมูลการผลิต สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
15.การจ้างงานและแรงงานต้องเป็นธรรม
16.พึ่งพาตนเองน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางดำเนินการในแปลง เช่น ผลิตปัจจัยการผลิตเอง ได้แก่ ปุ๋ยชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพ เป็นต้น การทำข้อตกลงมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม ข้าวอินทรีย์ เป็นการยกระดับกระบวนการผลิตและแปรรูปข้าว เป็นแหล่งอาหารให้มีความปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค รักษาสายพันธุ์ข้าวที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ สมาคมอาหารธรรมชาติยั่งยืน นครศรีธรรมราช
Relate topics
- Kick Off สร้างต้นแบบแปลงเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เพื่อความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพที่ยั่งยืนของคนสงขลา
- ปรึกษาหารือขับเคลื่อนแก้ปัญหาโรค NCD ด้วยเครือข่ายชุมชนสุขภาพปฐมภูมิตรัง
- บ้านท่าสะท้อนอ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ประกาศธรรมนูญสุขภาพรองรับสังคมสูงวัย
- ประชุมพัฒนาศักยภาพบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคีเครือข่าย โครงการวิจัย “ เรื่องการพัฒนาต้นแบบมาตรฐานระบบสุขภาพปฐมภูมิ อปท." สงขลา
- สสส. x อบจ. โมเดลความร่วมมือพัฒนาจังหวัดสู่สังคมสุขภาวะ
- "ความร่วมมือกับภาคีรับมือสุขภาพจิตและยาเสพติด" พื้นที่สงขลา
- “โหม่เรา เกลอใต้ รับมือโลกรวน” ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกําหนดนโยบายสาธารณะ ภูมิภาคใต้ตอนบน-ใต้ตอนล่าง
- กขป.เขต 11 ร่วมเวทีเตรียมงานสมัชชานครแห่งความสุข นครศรีธรรมราช
- ประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนระบบข้อมูลตำบล (TCNAP) การวิจัยชุมชน (RECAP) และพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ของศูนย์จัดการเครือข่ายสุขภาวะชุมชน (ศจค.) ภาคใต้
- "งานสุขภาพปฐมภูมิสงขลา"