เขตสุขภาพเพื่อประชาชนภาคใต้

วันที่ 27/8/68 ประชุมคณะทำงานกลั่นกรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน พอช.(องค์การมหาชน) ร่วมกับเครือข่ายสวัสดิการชุมชน 5 ภาค ได้ดำเนินโครงการสนับสนุนการจัดสวัสดิการชุมชนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เพื่อสร้างระบบการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน ปัจจุบันมีการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 6,050 กองทุน

(ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2568: 5,997 กองทุน) มีสมาชิก 6.7 ล้านคน (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2568: 6,877,042 คน) และเงินกองทุนสะสมรวม 23,701.438 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2568: 23,027,755,900.01 บาท)

1.เพื่อยกระดับกองทุนสวัสดิการชุมชนให้มีคุณภาพและมาตรฐานด้านการบริหารจัดการในระยะยาว พอช. จึงได้จัดทำ "แนวทางการพัฒนา ประเมิน และรับรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชน" ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 และดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 2 ปี มีกองทุนที่ได้รับการรับรองแล้วรวมทั้งสิ้น 2,736 กองทุน

2.การแต่งตั้งคณะทำงานกลั่นกรองฯ

คำสั่งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ที่ ง 97/2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานกลั่นกรองแนวทางการพัฒนาประเมินและรับรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชน ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรและตำแหน่งผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้รายชื่อและตำแหน่งของคณะทำงานเป็นปัจจุบัน คณะทำงานชุดนี้ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนหน่วยงาน ผู้แทนองค์กรชุมชน และผู้ปฏิบัติงาน พอช. รวมจำนวน 18 คน

อำนาจหน้าที่ของคณะทำงานฯ:

กำหนดหลักเกณฑ์แนวทางการพัฒนา ประเมิน และรับรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบล

ให้ข้อเสนอแนะต่อคณะอนุกรรมการสวัสดิการชุมชน เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเพื่อยกระดับกองทุนสวัสดิการชุมชนให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน

พิจารณากลั่นกรองกองทุนสวัสดิการชุมชนที่เสนอขอรับการรับรองคุณภาพตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อเสนอต่อคณะอนุกรรมการสวัสดิการชุมชนพิจารณารับรอง

รายงานผลการดำเนินงานต่อคณะอนุกรรมการสวัสดิการชุมชนในการประชุมทุกครั้ง

ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่คณะอนุกรรมการสวัสดิการชุมชนและผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนมอบหมาย

3.ผลการรับรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เรื่องเพื่อทราบ)

ในปี พ.ศ. 2567 คณะทำงานฯ ได้กำหนดเกณฑ์การประเมินและรับรองคุณภาพไว้ 3 ด้าน ได้แก่

ด้านที่ 1: การบริหารจัดการองค์กรที่มีประสิทธิภาพ (ครอบคลุมการเงิน บัญชี ระบบข้อมูล ระเบียบ แผนพัฒนา และการประสานงาน)

ด้านที่ 2: ลักษณะการให้บริการ (ครอบคลุมการมีส่วนร่วมของสมาชิก สิทธิประโยชน์ เงื่อนไขการจ่ายสวัสดิการ ทะเบียนผู้รับผลประโยชน์ และความพึงพอใจ)

ด้านที่ 3: การจัดสวัสดิการที่มีคุณภาพ (ครอบคลุมการเข้าถึงสิทธิ การป้องกันความเสี่ยง และการบูรณาการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต)

ผลการรับรองคุณภาพมีอายุ 3 ปีนับตั้งแต่วันที่ประกาศ

จากการเสนอขอรับรองคุณภาพทั้งหมด 1,580 กองทุน คณะทำงานฯ ได้เห็นชอบรายชื่อกองทุนที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพจำนวนทั้งสิ้น 1,404 กองทุน แบ่งเป็นระดับดี 260 กองทุน และระดับดีมาก 1,144 กองทุน โดยมี 176 กองทุนที่ไม่ผ่านเกณฑ์

มีการตรวจสอบข้อมูลกองทุนที่มีความเสี่ยง 46 กองทุน และได้ดำเนินการพัฒนาให้ผ่านหลักเกณฑ์ได้ 43 กองทุน มีการเสนอกองทุนทดแทน 3 กองทุน

ในการประชุมคณะอนุกรรมการสวัสดิการชุมชน ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2567 มีมติรับรองรายชื่อกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลที่ผ่านคุณสมบัติตามแนวทางการพัฒนาประเมินและรับรองคุณภาพประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 1,401 กองทุน (ไม่รับรอง 3 กองทุนที่เสนอทดแทน เนื่องจากไม่ผ่านการกลั่นกรอง)

รายชื่อกองทุนที่ผ่านการรับรองได้ประกาศ ณ วันที่ 23 กันยายน 2567 และเผยแพร่บนเว็บไซต์ของสถาบัน

4.คู่มือแนวทางการพัฒนา ประเมินและรับรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบล ประจำปี พ.ศ. 2568 (เรื่องเพื่อทราบ)

ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กำหนดแผนงานการประเมินและรับรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชนโดยมีพื้นที่เป้าหมายจำนวน 2,500 กองทุน

สำนักงานประสานขบวนองค์กรชุมชนและประชาสังคม ร่วมกับเครือข่ายสวัสดิการชุมชน 5 ภาค ได้ทบทวนและสรุปให้ใช้เกณฑ์การพัฒนา ประเมิน และรับรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลเดิมที่ใช้ในปี 2566 เป็นเกณฑ์ในการวัดคุณภาพสำหรับปี พ.ศ. 2568

มีการกระจายพื้นที่เป้าหมายการดำเนินงานในแต่ละภาคดังนี้:

เหนือ: 526 กองทุน

ใต้: 449 กองทุน

กรุงเทพฯ ปริมณฑลและตะวันออก: 298 กองทุน

กลางและตะวันตก: 320 กองทุน

ตะวันออกเฉียงเหนือ: 907 กองทุน

รวมทั้งสิ้น: 2,500 กองทุน

4.1 วัตถุประสงค์ในการรับรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชน:

"เพื่อยกระดับการพัฒนากองทุนสวัสดิการชุมชนตำบล ให้มีเกณฑ์มาตรฐานกลางร่วมกันในการส่งเสริม สนับสนุน การติดตามประเมินผลและการพัฒนากองทุนสวัสดิการชุมชน"

"เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาเข้มแข็งกองทุนสวัสดิการชุมชนให้เป็นไปตามเป้าหมาย หลักคิด เจตนารมณ์ และอุดมการณ์ ของการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชน"

"เพื่อการยอมรับความเป็นมาตรฐานในด้านการบริหารจัดการของกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบล"

4.2 เกณฑ์วัดผล (3 ด้าน 31 ข้อย่อย คะแนนเต็ม 60 คะแนน)

ด้านที่ 1: การบริหารจัดการองค์กรที่มีประสิทธิภาพ (17 ข้อย่อย, 32 คะแนน)

ประธาน คณะกรรมการและสมาชิก (การคัดเลือก, การกระจายตัว, การประชุม)

การเงิน การบัญชี (ผู้รับผิดชอบ, รายงานรับ-จ่าย, รายงานประจำปี, ที่ปรึกษาบัญชี)

ระบบข้อมูล (การบันทึกข้อมูลในระบบโปรแกรม CODI AreaInterop (V2) หรือ Codi_SWF)

ข้อบังคับ/ระเบียบ (การเห็นชอบของสมาชิก, ความครบถ้วนและการปฏิบัติตาม)

แผนพัฒนากองทุน (การจัดทำและการดำเนินงานตามแผน, การบรรจุในแผนหน่วยงานภาคี)

การรายงานและการสื่อสาร (การรายงานต่อสมาชิก/หน่วยงาน/สาธารณะ, การประชาสัมพันธ์)

การประสานและการเชื่อมโยงกับหน่วยงานในภาคี (การสร้างความร่วมมือ, การสนับสนุนบุคลากร/สถานที่/วิชาการ, งบประมาณสนับสนุนจาก อปท.)

ด้านที่ 2: ลักษณะการให้บริการ (8 ข้อย่อย, 16 คะแนน)

สมาชิกและการมีส่วนร่วม (การสมทบเงินที่ไม่คืนเมื่อลาออก, การเข้าร่วมประชุมสามัญ, การกระจายตัวของสมาชิก)

สวัสดิการที่จัดให้กับสมาชิก (จำนวนและประเภทที่สอดคล้องกับบริบทและมากกว่าขั้นพื้นฐาน)

เงื่อนไข วิธีการจ่ายสวัสดิการ (จ่ายตามข้อบังคับ/ระเบียบ)

การจัดทำข้อมูลทะเบียนผู้รับผลประโยชน์ (มีทะเบียนครบถ้วน)

ความพึงพอใจต่อการบริการ (ไม่มีการร้องเรียนหรือแก้ไขได้, การเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น)

ด้านที่ 3: การจัดสวัสดิการชุมชนที่มีคุณภาพ (3 ข้อย่อย, 12 คะแนน)

การบริการที่เข้าถึงและความพึงพอใจ (ทุกคนเป็นสมาชิกง่าย, รูปแบบการสมทบหลากหลาย, การเข้าถึงบริการรวดเร็ว)

การปกป้องผลประโยชน์และป้องกันความเสี่ยง (การจ่ายสวัสดิการถูกต้อง, การดูแลกลุ่มเปราะบาง, ไม่มีปล่อยกู้)

การบูรณาการ การแก้ไขปัญหาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตในมิติอื่น ๆ (มีแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตและบูรณาการในพื้นที่)

4.3 ค่าคะแนนการวัดผล:

ผ่านเกณฑ์ระดับดีมาก: 51 คะแนนขึ้นไป (ร้อยละ 85 ขึ้นไป)

ผ่านเกณฑ์ระดับดี: 42 - 50 คะแนน (ร้อยละ 70 ขึ้นไป)

ไม่ผ่านเกณฑ์วัดคุณภาพ: ต่ำกว่า 41 คะแนน

กองทุนที่ได้รับการรับรองคุณภาพจะมีอายุการรับรอง 3 ปี

4.4 กระบวนการประเมินและรับรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชน:

ขั้นตอนการประเมิน (ระดับภาค): เริ่มจากสำนักประสานเครือข่ายแจ้งแนวทาง, สำนักงานภาคร่วมกับเครือข่ายจัดประชุมทำความเข้าใจระดับจังหวัด, เครือข่ายจังหวัดลงพื้นที่ทำความเข้าใจและนำส่งรายชื่อ, คณะกรรมการกองทุนเตรียมเอกสาร, คณะทำงานเครือข่ายจังหวัดลงพื้นที่ประเมินร่วมกับกรรมการกองทุน, จัดเวทีให้ความเห็นต่อการประเมิน, และสำนักงานภาครวบรวมรายชื่อเสนอสำนักประสานฯ

ขั้นตอนการรับรอง (ระดับส่วนกลาง): ผู้อำนวยการ พอช. แต่งตั้งคณะทำงานกลั่นกรอง, คณะทำงานกลั่นกรองพิจารณาและส่งผล, สำนักประสานฯ จัดประชุมคณะอนุกรรมการสวัสดิการชุมชนเพื่อพิจารณารับรอง, ผู้อำนวยการ พอช. ประกาศรายชื่อที่ได้รับการรับรอง

4.5 แผนปฏิบัติการ:

พฤษภาคม – มิถุนายน 2568: สำนักงานภาคดำเนินการประเมินรับรองคุณภาพ

กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2568: สำนักประสานเครือข่ายฯ ประมวลข้อมูล, ประชุมคณะกลั่นกรอง, ประชุมคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพิจารณารับรอง

ภายในสิงหาคม 2568: สำนักประสานเครือข่ายฯ เสนอผู้อำนวยการ พอช. ประกาศรับรองรายชื่อ

4.6 ประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อองค์กร:

กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลได้ใบรับรอง

กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลจะได้รับการยกระดับการพัฒนาด้านที่มีความหลากหลายมิติในการจัดสวัสดิการ

กองทุนจะได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพ และประสิทธิภาพในการบริหารงานกองทุน

5.เรื่องเพื่อพิจารณา

พิจารณารายชื่อกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลที่เสนอขอรับรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลตามแนวทางการพัฒนาประเมินและรับรองคุณภาพกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (เอกสารแจกในที่ประชุม)

6.สรุปแนวคิดและหลักการสำคัญของสวัสดิการชุมชน

"สวัสดิการชุมชน" คือ "การสร้างหลักประกันเพื่อความมั่นคงของคนในชุมชน ซึ่งหมายรวมถึงในทุกๆด้านที่จะทำให้คนในชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งในรูปของสิ่งของ เงินทุน ทุนน้ำใจการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ วิถีชีวิตดั้งเดิมตั้งแต่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย กลุ่มผู้ด้อยโอกาส"

สวัสดิการชุมชนเป็นระบบการช่วยเหลือเกื้อกูลของคนในท้องถิ่น ที่ดำเนินงานโดยคนในชุมชน เพื่อคนในชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

แนวคิดสำคัญ:

สร้างเกณฑ์มาตรฐานในการส่งเสริมพัฒนา สนับสนุน รับรอง ติดตามประเมินผล เพื่อให้กองทุนฯ พัฒนาตามหลักคิด เจตนารมณ์ อุดมการณ์ และระบบบริหารจัดการที่ดี

สวัสดิการชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาแบบองค์รวม เชื่อมโยงกับกิจกรรมและองค์กรอื่น ๆ ในแนวคิด "ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง"

มีความหลากหลายตามบริบทของชุมชนท้องถิ่น สามารถเชื่อมโยงทุนทางสังคมในท้องถิ่น

ยึดหลักการพึ่งตนเองและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยยึดหลัก "ให้อย่างมีคุณค่า รับอย่างมีศักดิ์ศรี" ทุกคนเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ

การบริหารจัดการต้องสร้างการมีส่วนร่วมและมีความโปร่งใส

ขอบคุณข้อมูลต้นทาง Facebook Masly Omee