"สงขลาจัดการตนเองด้านปฐมภูมิ"

  • photo  , 1000x563 pixel , 108,957 bytes.
  • photo  , 1080x720 pixel , 123,517 bytes.
  • photo  , 1000x561 pixel , 110,445 bytes.
  • photo  , 1000x750 pixel , 119,850 bytes.
  • photo  , 1000x563 pixel , 86,573 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 187,154 bytes.
  • photo  , 1000x667 pixel , 134,232 bytes.
  • photo  , 1920x1080 pixel , 133,448 bytes.

"สงขลาจัดการตนเองด้านปฐมภูมิ"

การพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิเป็นเรื่องสำคัญที่จะเปลี่ยนระบบสุขภาพไทย แต่มักเจอ "กับดัก" สำคัญ โดยเฉพาะวิธีคิดเรื่องกำลังคนในฟากระบบบริการสุขภาพ ที่มักจะมีเสียงสะท้อนว่าคนไม่พอ เงินไม่พอ รวมถึงแนวคิดการบริการที่ยังเน้นรักษามากกว่าสร้างเสริมป้องกัน จังหวัดสงขลาและเครือข่าย ได้จัดทำโครงการสตรีสงขลาปลอดมะเร็งปากมดลูก เพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกให้กับกลุ่มสตรีอายุ 30 ปีขึ้นไป โดยการประสานการนำของกองสาธารณสุของค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นส่วนหนึ่งของถ่ายโอนภารกิจรพ.สต.มายังอบจ. ด้านหนึ่งช่วยอภิบาลระบบสุขภาพโดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายไปด้วย

โดยนำกรอบแนวคิด Health System 6 Building Blocks(กรอบแนวคิดการพัฒนาระบบสุขภาพ 6 ด้าน)+ 1 Plus มาใช้ในการดำเนินงานโครงการ และเป็นโครงการ Flagship ของงานวิจัยที่สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขสนับสนุน

ทั้งนี้ประเทศไทยเราพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 9,999 ราย/ปี เสียชีวิตประมาณ 5,216 ราย/ปี อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 7 คน/วัน เป็น 14 คน/วัน คาดว่า ปี 2568 มีผู้ป่วยรายใหม่จะสูงขึ้นปีละ 13,082 คน เสียชีวิต 7,871 คน หรือวันละ 21 คน เท่ากับเป็นปัญหาสาธารณสุขโลกและประเทศ และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของสตรีไทย

จังหวัดสงขลา อัตราการตรวจคัดกรองครอบคลุมต่ำ 12.13% (ต่ำกว่าเกณฑ์ 25%) โดยเฉพาะในกลุ่มประกันสังคม/ข้าราชการ เข้าถึงเพียง 40–50% และยังมีผู้ป่วยตกหล่นจำนวนมาก ข้อมูลจาก LBC(เทคนิคการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่เก็บเซลล์จากปากมดลูกใส่ในของเหลวพิเศษเพื่อนำไปวิเคราะห์)655 ราย, Colposcope(่ส่องกล้องตรวจ) 291 ราย

คณะทำงานประกอบด้วยกองสาธารณสุข อบจ. กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดสงขลา สปสช.เขต 12 สคร.ที่ 12 ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ รพ.สมเด็จฯนาทวี สสจ.สงขลา รพ.สต.ถ่ายโอนและไม่ถ่ายโอน 3 อำเภอ(ควนเนียง สิงหนคร นาทวี) สมัชชาสุขภาพจังหวัด พร้อมด้วยจังหวัดสงขลา กาชาดจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด การศึกษาจังหวัด  คณะแพทย์ศาสตร์ ม.อ. รพ.กรุงเทพ อาศัยกรอบ Health System 6 Building Blocks + 1 Plus มาใช้สนับสนุนการดำเนินงาน ประกอบด้วยปัญหาสำคัญของระบบบริการดังนี้

1.ระบบบริการไม่ต่อเนื่อง ครบวงจร (screen → confirm → treat → follow-up)

2.บุคลากรกำลังคนมีจำกัด ภาระงานสูง ขาดแรงจูงใจ

3.ระบบข้อมูลไม่เชื่อมโยง พบปัญหาผู้ป่วยที่คัดกรองของหลายหน่วยงานไม่ได้รวมตัวเลขที่แท้จริง บวกตกหล่น

4.เครื่องมือ/เวชภัณฑ์จำกัด ทำให้รอคิวนาน

5.ระบบการเงินไม่จูงใจหน่วยบริการ

6.ขาดผู้นำหรือกลไกกลางในการบูรณาการ

7.ประชาชนยังขาดความรู้ความตระหนัก และเผชิญอุปสรรคการเข้าถึง


โครงการ flagship มีระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน(ช่วงนำร่อง ดำเนินการใน 3 อำเภอ ได้แก่ ควนเนียง/รพ.สต.ถ่ายโอน 100% สิงหนคร ถ่ายโอน 80% นาทวีถ่ายโอน 40%) และดำเนินการต่อไปอีก 13 อำเภอในงบปี 69)  มีกลุ่มเป้าหมายได้แก่ สตรีอายุ 30-59 ปี

มีการดำเนินงานดังนี้

1.Service Delivery(การจัดบริการเชิงรุก) ทีมได้ประสานหน่วยบริการร่วมหารือและปรับระบบบริการร่วมกัน ประสานส่งต่อข้อมูลการคัดกรอง Fasttrack ส่งต่อผู้ป่วยผลบวกเข้าสู่การรักษาทันที พร้อมนำ HPV Self ชุดตรวจคัดกรองด้วยตนเอง ปรับรูปแบบการคัดกรองเพื่อแก้ปัญหาการขึ้นขาหยั่ง กลุ่มเป้าหมายมีความกระดากอาย โดยประสานหน่วยบริการเชิงรุกไปหากลุ่มเป้าหมายโดยตรง ไปยังชุมชน ส่วนราชการ โรงงาน และสถานศึกษา มีการบูรณาการบริการข้ามภาคส่วน อาศัยต้นทุนที่มีของหน่วยบริการระดับเขตและจังหวัด และหาOutsource บางส่วนที่หน่วยราชการขาดกำลังพร้อมปรับตัวชี้วัดจาก“ปริมาณ”ไปสู่“คุณภาพและผลลัพธ์ผู้ป่วย”

2.Health Workforce (กำลังคน) มีการ MOU ภาคีเครือข่าย บูรณาการ คน เงิน ของ ระบบ และข้อมูล ตั้งทีม C-4 Songkhla(Cervical Cancer Care Coordinator ) พร้อมสร้างแรงจูงใจทั้งในส่วนของการเบิกจ่ายค่าคัดกรอง การวิจัยสร้างผลงาน การให้รางวัลตามผลงาน Incentive program กระตุ้นบุคลากร มีการOutsource LAB (LBC)ลดภาระ รพ.ใหญ่

3.HealthInformationSystem(ระบบสารสนเทศ) มีการบูรณาการรวมข้อมูลสตรีอายุ 30-59 ปีที่ผ่านการคัดกรองของกองทุนบัตรทอง-ประกันสังคม-ราชการ) เชื่อมระบบข้อมูลจาก JHCIS และ KTB สปสช.และมอ.หาดใหญ่ รวมรพ.กรุงเทพ-หาดใหญ่ และสภาอุตสาหกรรมจังหวัด(ประกันสังคม) พร้อมDashboard online ติดตาม ยืนยันผล-ตรวจรักษา status real-time อนาคตพัฒนาช่องทางที่ประชาชนเข้าถึงข้อมูลด้วยตนเองผ่าน AI-assisted recall system (LINE OA / App) และปรับตัวชี้วัดจากเชิงปริมาณมาเป็นเชิงคุณภาพ : ตกหล่น, รักษาครบ, ระยะเวลาถึงการรักษา

4.MedicalProducts&Technologies มีการนำ Mobile service Outsource ไปยังส่วนราชการ โรงงาน สถานศึกษา กระจาย HPV Self-sampling kits ครอบคลุมเพียงพอ Tele-LBC/Outsource LAB ลดเวลารอผล บวกกับสื่อดิจิทัล/วิดีโอสั้น แนะนำวิธีตรวจ ลดความอาย

5.Financing ประสานงบจากกองทุนสุขภาพท้องถิ่น ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ + Outsource สนับสนุนชุดตรวจ Incentive-based payment ครอบคลุม screen - confirm - treat รวมถึง CSR Health Project ร่วมโรงงานและหน่วยงานราชการ ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนเพิ่มความคุ้มค่ารัฐ

6.Leadership&Governance ประสานจังหวัด กาชาดจังหวัด ร่วมกันประกาศนโยบายจังหวัด “Songkhla Zero Cervical Cancer” ตั้งคณะทำงานกลาง ภาคีหลายฝ่าย กระจายการรณรงค์ไปยัง 16 อำเภอ ประสานการส่งต่อข้อมูล กิจกรรม การคัดกรอง Monitoring & Evaluation รายไตรมาส เสริมด้วย PPP (Public–Private Partnership)

7.PeopleParticipation สร้างการรับรู้ให้ประชาชน จัดทำแคมเปญสื่อสารออนไลน์ /ออฟไลน์ ต่อเนื่อง ใช้ผู้นำ องค์กร/ ชุมชนเป็น Influencer “ตรวจ = ปกป้องครอบครัว” กิจกรรมสร้างสรรค์:TikTok Challenge,Health Day in Workplace เน้นบริการใกล้บ้านใกล้ที่ทำ งานลดอุปสรรคเวลา/ ค่าใช้จ่าย

ผลที่ได้รับจากการทำงานเชิงรุก เปลี่ยนวิธีคิด วิธีการจากเดิม ด้วยการประสานการทำงานในรูปแบบเครือข่ายแนวราบ ระดมสรรพกำลังและทรัพยากรที่แต่ละหน่วยงานมี รวมถึงประสานภารกิจของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีทิศทางและเป้าหมายร่วมกัน  นอกจากผู้ให้บริการมีความสุขในการทำงานมากขึ้นแล้ว ยังสามารถกำหนดตัวชี้วัดที่เป็นจริงและสนองตอบกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นแล้ว ยังทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันของระบบบริการในพื้นที่ทั้งในส่วนรพ.สต.ถ่ายโอนและไม่ถ่ายโอน ส่งผลต่อระบบสุขภาพในช่วงเปลี่ยนผ่าน เห็นแนวโน้มของการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

1.ผลการรวมตัวเลขการคัดกรองของสตรีจาก 3 สิทธิ และการปรัับวิธีการคัดกรองเชิงรุก พบว่าสามารถทำให้ Coverage rate เพิ่ม ≥ 70% ใน 1 ปี และ 100 % ใน 5 ปี

2.ลดอัตรา PT ตกหล่น (LBC, Colposcope → เป็น O)

3.ผู้รับบริการพึงพอใจมากขึ้น

4.อัตราป่วย–ตายจากมะเร็งปากมดลูกอนาคตจะลดลงอย่างชัดเจน

จากการดำเนินงานดังกล่าว ประสานการขับเคลื่อนโดยกองสาธารณสุขอบจ.สงขลาและเครือข่ายร่วมกันกำหนดแนวทาง การทำงานที่มุ่งเป้าหมายไปยังประชาชนโดยตรงทำให้ข้ามพ้นมิติการทำงานเฉพาะองค์กรหรือพื้นที่ และยังเป็นโอกาสในการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ ที่นำทรัพยากร คน งาน เงิน ของ ข้อมูล มาใช้อย่างเต็มกำลัง

ปัจจัยความสำเร็จสำคัญ

1.Continuum of care การเชื่อมโยงระบบบริการ และระบบจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลในรูปแบบฐานข้อมูลแบบลำดับชั้น เพื่อบันทึก จัดการ และติดตามข้อมูลสำคัญต่างๆ Digital registry

2.การเงินจูงใจให้กับบุคลากรของระบบบริการ รวมถึงการมี CSR สนับสนุน

3.บุคลากรมีแรงจูงใจจากผลการทำงาน และความพร้อมของภาคีร่วมมือ

4.การมีส่วนร่วมรับรู้ของประชาชน และการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง

Relate topics